หน่วยที่6

คอมพิวเตอร์กับงานด้านการบัญชี

ระบบสารสนเทศทางการบัญชี

แนวคิดระบบสารสนเทศทางการ              
ระบบสารสนเทศทางการบัญชี  คือ  ระบบการทำงานระบบหนึ่งซึ่งประกอบด้วย เทคโนโลยีสารสนเทศ ทรัพยากรมนุษย์ และนโยบายบริษัท เน้นถึงการใช้ข้อมูลทางการบัญชีที่เกิดจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หลักดังนี้

  1. การเก็บรวบรวมและบันทึกรายการค้าของธุรกิจ
  2. การประเมินผลข้อมูลเพพื่อให้ได้สารสนเทศที่มีประโยชน์การวางแผนการสั่งการและการควบคุม
  3. การจัดให้มีการควบคุมข้อมูของธุรกิจเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลมีความครบถ้วน ถูกต้องและน่าเชื่อถือ

ความหมายของการบัญชี เอฟเอเอบี  (FASB.  อ้างถึงใน  พลพธู  ปิยวรรณ และสุภาพร เชิงเอี่ยม, 2545. หน้า 5) ระบุว่า              การบัญชี  คือ  ระบบสารสนเทศระบบหนึ่ง  มีไหน้าที่รวบรวม บันทึก และจัดเก็บรายการค้าและเหตุารณ์ทางธุรกิจต่างๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐานที่เกิดขึ้น  พร้อมมีการนำเสนอสารสนเทศทางการบัญชีที่ใช้ประกอบการตัดสินใจ  
           
จากข้อความข้างต้น  การบัญชี  คือระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์หรือใช้มือจัดทบัญชีก็ได้ มี 4 ขั้นตอนดังนี้             
ขั้นตอนที่ 1  การจดบันทึก คือการลงบันทึกความจำซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตูการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นแต่ละวัน             
ขั้นตอนที่ 2  การจำแนก  คือการนำข้อมูลที่จกบันทึกไว้ในสมุดรายวันไปจำแนกหมวดหมู่หรือแยกประเภทบัญชีในสมุดขั้นปลาย             
ขั้นตอนที่ 3  การสรุปผล  คือกการนำข้มูลที่ผ่านการจำแนกประเภทมาสรุปผลเป็นรายงานทางการเงินหรืองบการเงินภายใในงวดเวลาบัญีหนึ่ง             
ขั้นตอนที่ 4 การวิเคราะห์และแปลความหมาย  คือการนำข้อมูลซึ่งสรุปผลในรายงานทางวิทยาศาสตร์ทางการเงินมาทำการวิเคราะห์ในรูปของร้อยละ  จากนั้นนำผลการวิเคราะห์มาแปลความหมายและนำเสนอผลการวิเคราะหแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกธุรกิจ

ประเภทการบัญชี
สามารถจำแนกออกเป็น 2 หมวด คือ

  1. ระบบบัญชีการเงิน (financial accounting system) คือ การจัดทำบัญชีที่อยู่ภายใต้วัฎจักรการบัญชี มีการสร้างระบบประมวลผลข้อมูลทางการบัญชีขั้นพื้นฐานของธุรกิจเริ่มตั้งแต่ การจัดเก็บรวบรวมเอกสารขั้นต้นซึ่งบรรจุรายการเปลี่ยนแปลงทางการค้า ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันมาบันทึกรายการในสมุดขั้นต้นหรือสมุดรายวันและผ่าน รายการบัญชีไปยังสมุดแยกประเภท จากนั้นจึงทำการสรุปยอดคงเหลือในงบทดลองก่อนปรับปรุงรายการเมื่อสิ้นงวดเวลา บัญชีก็จะดำเนินการปรับปรุงรายการบัญชีบางประเภท หลังจากนั้นจึงจัดทำงบกำไรขาดทุนพร้อมทั้งดำเนินการปิดบัญชีกำไรขาดทุนเข้า บัญชีทุนหรือส่วนของเจ้าของและทำการปรับงบทดลองหลังปิดบัญชี
  2. ระบบบัญชีบริหาร  (managerial accounting system) บัญชีบริหารเป็นการนำเสนอข้อมูลทางการเงินแก่ ผู้บริหาร เพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ ระบบบัญชีจะประกอบด้วย บัญชีต้นทุน การงบประมาณ และการศึกษาระบบ การนำข้อมูลบัญชีการเงินมาทำการจัดรูปแบบและประมวลผลเพื่อให้ได้รายงานตาม ความต้องการของผู้ใช้ กำหนดรูปแบบของรายงานไม่มีความชัดเจนขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้รายงาน หรือผู้บริหารระดับต่างๆ ขององค์การโดยส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปแบบของรายงานผลการดำเนินงาน หลักการบัญชี
หลักการบัญชี  คือมีการนำเสนอสารสนเทศทางการ
สารสนเทศทางการบัญชีแนวคิด สารสนเทศทางการบัญชี คือ สารสนเทศที่ได้มาจากระบบสารสนเทศทางการบัญชี คือ งบการเงินและการภาษีมูลค่าเพิ่มที่นำเสนอต่อผู้ใช้งบการเงินและกรมสรรพากร และในส่วนการบัญชีบริหาร คือ รายงานวิเคราะห์ต้นทุนต่างๆรายงานงบประมาณ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ออกจากระบบสารสนเทศทางการบัญชีและใช้เป็นหลักฐานทางการ เงิน ดังนี้

  1. ช่วยให้ธุรกิจทราบกำไรที่แท้จริงขององค์การ           
  2. ช่วยให้ธุรกิจทราบฐานะทางการเงินของกิจการ           
  3. ช่วยเป็นเครื่องมือสนับสนุนการหาแหล่งเงินทุนของธุรกิจ          
  4. ช่วยเป็นเครื่องมือในการเสียภาษี  
  5. ช่วยในการวางแผนธุรกิจ    
  6. ช่วยในการปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าต่อไปได้ประเภท
จัดทำรายงานการเงินและรายงานเพื่อการบริหาร
ประโยน์จากสารสนเทสทางการบัญชี

  1. ข้อูลเพื่อใช้ในการปฏิงานประจำวัน เช่น รายงานการขาย
  2. ให้ข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจ วางแผน และควบคุมการดำเนินงาน
  3. ให้ข้อมูลขั้นพื้นฐานตามกฏหมายกำหนดแก่ผู้ใช้ภายนอกประกอบด้วยตัวเลข งบดุล งบกำไรขาดทุน
การประยุกต์ใช้โปรแกรมทางการบัญชี   การใช้  Excel จัดทำบัยชีรายจ่าย (บัญชีเงินสด)   การจัดทำบัยชรายรับรายจ่าย  โดยตามหลักฤษฎีแล้วหากทำธุรกิจแล้วต้องการเพิ่มกำไรให้มากขึ้นมีวิธีการทำอยู่ 2 วิธีคือ

  1. การเพิ่มยอดขาย
  2. การลดค่าใช้จ่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น